มีเหตุเเจ้งเข้ามาหาผมจากชาวบ้านหลายคนจากพหลโยธิน 48 เขตบางเขน ว่ามีเด็กหญิงอายุประมาณ 12 กับ 4 ขวบอาศัยอยู่ในอพาร์ตเม้นท์กับพ่อแม่และถูกพ่อทำร้ายมาระยะเวลานาน อีกทั้งยังจับขังไว้ในห้อง นานๆจะให้ออกมาที ( ตามคำพูดของเด็กคนโต )พร้อมกับโชว์บาดแผลตามร่างกายให้ชาวบ้านดู เด็กสาวคนโตหนีออกมาได้เมื่อวานจึงขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านและยืนยันไม่ยอมกลับบ้าน ชาวบ้านจึงได้แจ้งมาที่ผม ผมจึงประสานไปที่ กัน จอมพลัง เพื่อให้ช่วยประสานเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ( พม ) เพื่อให้เข้ามาดูแลกรณีดังกล่าว
พอไปถึงสถานที่แม่ของเด็กยืนยันว่าพ่อไม่เคยทรมานหรือทำร้ายลูกตามที่ลูกกล่าวอ้าง แผลตามร่างกายที่เห็นนั้นเป็นอุบัติเหตุบนท้องถนนเมื่อนานมาแล้ว เจ้าหน้าที่ พม. จึงตัดสินใจนำเด็กไปตรวจร่างกายเพื่อหาความชัดเจนและความกระจ่าง ผมจึงขอให้ทางเจ้าหน้าที่ให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายและตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ได้
ตอนแรกที่ผมกับ กัน จอมพลัง เข้าไปช่วยเด็กออกมา ผมได้พบแม่เด็กฟังเขาร้องไห้และอธิบายเรื่องราว ผมก็ยังสองจิตสองใจยังถามกับกัน จอมพลัง อยู่เลยว่าเด็กอาจจะโกหกไหม เราต้องฟังสองฝ่ายนะ เห็นแม่เขาร้องไห้ก็นึกสงสารแม่เขาเหมือนกันเพราะเขายืนยันว่าลูกเขาไม่ปกติ และชาวบ้านบางคนก็ยังบอกผมว่าพ่อแม่เด็กดูแลเด็กดีไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายใดๆอย่างที่เด็กพูดเด็กอาจจะป่วยจริงๆ
แต่ในทางกลับกันเด็กพูดจารู้เรื่องทุกอย่างและยืนยันหนักแน่นว่าเขาและน้องถูกทำร้ายโดยพ่อแท้ๆและไม่ยอมกลับบ้านแน่นอน ผมจึงต้องอาศัยเจ้าหน้าที่ พม. พาเด็กทั้งสองไปพักที่บ้านพักของกรมเพื่อรอพิสูจน์ทราบความจริงจากผลตรวจร่างกายและสอบปากคำพ่อแม่ของเด็ก
ระยะเวลาผ่านไปได้ระยะหนึ่งผมโทรไปถามจากกัน จอมพลังว่าน้องทั้งสองเป็นไงบ้าง อยากกลับบ้านไหม น้องยืนยันกลับมาว่าอยู่ที่ใหม่มีความสุขดีและไม่ต้องการกลับบ้านเช่นเดิม ผมก็คิดในใจว่าเราคงทำในสิ่งที่ถูกแล้ว…
จนมาเมื่อวานบ่าย พ่อของเด็กโดนตำรวจสอบปากคำและสารภาพว่าลูกมีอีกคนและตัวพ่อนั้นได้สารภาพว่าทารุณและฆ่าลูกอีกคนและนำศพจากบางเขนไปโบกปูนหนีความผิดที่กำแพงเพชรตามข่าวที่ออก สร้างความตกอกตกใจแกสังคมไทยเป็นอย่างมาก
สุดท้ายที่ความจริงปรากฏผมรู้สึกดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการประสานช่วยเด็กหญิงทั้งสองคนในครั้งนี้ หากไม่มีชาวบ้านแจ้งผมเข้ามา ก็ไม่รู้ว่าเด็กทั้งสองจะเป็นเช่นไรในตอนนี้ สิ่งเลวร้ายต้องเกิดในสังคมเราต่อไปอีกเท่าไหร่ก็ไม่รู้ บางทีการทำงานของผมในทุกวันแม้ว่าจะไม่ใช่หน้าที่โดยตรงของสมาชิกสภากรุงเทพมหานครแต่ที่ผมพูดเสมอว่าสิ่งไหนประการใดที่ผมทำให้ชาวบางเขนได้ผมยินดี เช่นเคสเด็กหญิงพี่น้องสองคนนี้เป็นต้น
คนที่แข็งแรงกว่าควรจะช่วยเหลือคนที่อ่อนแอกว่า สังคมมันถึงจะอยู่ได้ การเผื่อแผ่คนลำบากตกทุกข์ได้ยากมันเหมือนเป็นกุศลเสริมสร้างบารมีให้ผมและครอบครัวพบเจอแต่สิ่งดีๆกัลยาณมิตรที่ดีในชีวิตตลอดมาด้วยเช่นกัน
ผมให้ความช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนตามกำลังที่ผมมี ช่วยกันคนล่ะไม้คนล่ะมือแบ่งปันให้สังคมที่ดีขึ้นเพื่อเราคนไทยทุกคน อย่าให้ความวุ่นวาย สังคมเอาตัวรอดในเมืองกรุง ทำให้คนเราเห็นแก่ตัวจนเกินไป
ผมเห็นข่าวที่น่าตกใจนี้จึงอยากนำเรื่องนี้มาแบ่งปันให้ฟังเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ในช่วงชีวิตของผมที่หน้าที่การงานตำแหน่ง ส.ก.ของผมเป็นที่พึ่งพาให้คนเดือดร้อนได้ ผมยินดีที่ได้มีโอกาสรับใช้ชาวบางเขนและจะบันทึกไว้ในใจครับ
ผมไม่สามารถประสานทุกหน่วยงานได้ฉับไว หากไม่ได้รับความเมตตาจากทุกๆท่าน ผมขอขอบพระคุณ
– คุณ กัน จอมพลัง
– เจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
– ผู้กำกับ สน.บางเขน พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ และเจ้าหน้าที่ทุกๆท่าน
– นักข่าวทุกสำนัก
มา ณ ที่นี้ ที่ถึงแม้จะเป็นวันหยุดแต่ยังยึดเอาความเดือดร้อนของคนอื่นเป็นที่ตั้ง มารวมแก้ไขปัญหากันได้ไวมาก ขอบคุณมากครับ
ส.ก.นริสสร แสงแก้ว ( เช็ค )
#ช่วยเหลือช่วยจริงช่วยด้วยใจ